
ในยุคที่การทำงานและการเรียนออนไลน์เป็นเรื่องปกติ Google Meet กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือประชุมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยฟีเจอร์ที่ใช้งานง่าย รองรับวิดีโอคุณภาพสูง และสามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะใช้เพื่อการประชุมทางธุรกิจ การเรียนการสอน หรือการสื่อสารกับทีมงาน Google Meet ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้เราจะพาคุณมารู้จัก Google Meet อย่างละเอียด รวมถึงฟีเจอร์หลัก วิธีการใช้งาน และข้อดีของแพลตฟอร์มนี้
หัวข้อ
Google Meet คืออะไร?
Google Meet เป็นบริการประชุมออนไลน์ผ่านวิดีโอ (Video Conferencing) ที่พัฒนาโดย Google ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Google Workspace (เดิมชื่อ G Suite) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการประชุมทางไกลได้อย่างราบรื่น รองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้สูงสุดถึง 500 คน (สำหรับแผนพรีเมียม) และสามารถใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ หรือแอปพลิเคชันบนมือถือทั้ง iOS และ Android
คุณสมบัติเด่นของ Google Meet
Google Meet มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ได้แก่:
1. รองรับการประชุมวิดีโอคุณภาพสูง
Google Meet รองรับการประชุมวิดีโอระดับ HD (High Definition) พร้อมระบบปรับคุณภาพอัตโนมัติตามความเร็วอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้
2. แชร์หน้าจอและเอกสารได้ง่าย
ผู้ใช้สามารถแชร์หน้าจอเพื่อแสดงพรีเซนเทชัน เอกสาร หรือไฟล์ต่าง ๆ ให้ผู้เข้าร่วมประชุมดูแบบเรียลไทม์
3. ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม
Google Meet สามารถเข้าถึงได้ผ่าน เว็บเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพิ่มเติม ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน
4. รองรับการบันทึกการประชุม (เฉพาะบัญชี Google Workspace)
สำหรับผู้ใช้ที่สมัคร Google Workspace สามารถบันทึกการประชุมและบันทึกลง Google Drive ได้โดยตรง
5. โหมดลดเสียงรบกวน (Noise Cancellation)
ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้เสียงพูดของผู้เข้าร่วมประชุมชัดเจนขึ้น
6. รองรับการใช้บนมือถือและแท็บเล็ต
Google Meet มีแอปพลิเคชันบน iOS และ Android ทำให้สามารถเข้าร่วมประชุมได้ทุกที่ทุกเวลา
7. มีระบบป้องกันความปลอดภัยสูง
Google Meet ใช้ การเข้ารหัส (Encryption) ในการสื่อสาร ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของผู้ใช้ปลอดภัย
วิธีใช้งาน Google Meet เบื้องต้น
1. เริ่มต้นการประชุม
- ไปที่เว็บไซต์ https://meet.google.com
- คลิก “เริ่มการประชุมใหม่” (New Meeting)
- คัดลอกลิงก์และส่งให้ผู้เข้าร่วมประชุม
2. เข้าร่วมการประชุม
- คลิกที่ลิงก์ที่ได้รับจากผู้สร้างห้องประชุม
- หรือไปที่หน้า Google Meet แล้วใส่ Meeting Code เพื่อเข้าร่วม
3. ใช้ฟีเจอร์เสริม
- เปิด/ปิดไมโครโฟนและกล้อง
- ใช้ฟีเจอร์ แชท (Chat) เพื่อพิมพ์ข้อความ
- แชร์หน้าจอเพื่อแสดงเอกสารหรือพรีเซนเทชัน
Google Meet ฟรี vs. Google Meet แบบเสียเงิน
Google Meet มีทั้งเวอร์ชันฟรีและแบบเสียเงิน โดยมีความแตกต่างดังนี้:
ฟีเจอร์ | Google Meet (ฟรี) | Google Meet (พรีเมียม) |
---|---|---|
จำนวนผู้เข้าร่วม | สูงสุด 100 คน | สูงสุด 500 คน |
ระยะเวลาการประชุม | 60 นาที | ไม่จำกัด |
บันทึกการประชุม | ❌ ไม่รองรับ | ✅ รองรับ |
การลดเสียงรบกวน | ❌ ไม่รองรับ | ✅ รองรับ |
การสตรีมสด | ❌ ไม่รองรับ | ✅ รองรับ |
หากต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม สามารถสมัคร Google Workspace เพื่อใช้ Google Meet เวอร์ชันพรีเมียม
ข้อดีของ Google Meet
- ใช้งานฟรี สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
- เชื่อมต่อกับ Google Calendar และ Gmail ได้ง่าย
- ไม่ต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
- รองรับหลายแพลตฟอร์ม ทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือ
- ปลอดภัยและมีระบบเข้ารหัสข้อมูล
สรุป
Google Meet เป็นเครื่องมือประชุมออนไลน์ที่มีฟีเจอร์ครบครัน รองรับการใช้งานได้ทั้งแบบส่วนตัวและธุรกิจ เหมาะสำหรับการประชุมทางไกล การเรียนการสอน และการทำงานแบบทีม ด้วยการใช้งานที่ง่าย สะดวก และปลอดภัย ทำให้ Google Meet เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทุกคนที่ต้องการเครื่องมือประชุมออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ
หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ที่ใช้งานง่ายและฟรี Google Meet คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด!
ติดต่อเรา
- Facebook : Devil Backlink
- LINE OA : Devil Backlink
- เว็บไซต์ : www.devilbacklink.com

